Joy at Work : The Science of Happiness Management ความสุขจากงาน...บริหารด้วยตัวคุณเอง

Aug 13, 2024

สวัสดีกันอีกครั้งครับทุกๆคน เรื่องก่อนหน้านี้เราพูดถึงการวาง Career Path กันไปแล้วนะครับทุกคนน่าจะพอเห็นแนวทางการวางแผนในการทำงานกันแล้ว แต่กุญแจสำคัญที่ทำให้เราทำงานได้แบบมีความสุขและทำให้เราอยากที่จะตื่นเช้าไปทำงานได้ในทุกๆวันคือ “ความสุขในการทำงานและการบริหารความสุข” ครับ ทีนี้แล้วความสุขในการทำงานมันคืออะไรกันละ? ผมจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจในสิ่งนี้กัน ฟังดูเผินๆ มันอาจจะเป็นคำที่เข้าใจได้ง่าย แต่จริงๆแล้วมันค่อนข้างซับซ้อนมากกว่านั้นครับ

ความสุขในการทำงาน พูดกันอย่างตรงไปตรงมาเลยจริงๆก็ตรงตัวแบบที่ทุกคนเข้าใจเลยครับ คือ เมื่อเรารู้สึกอารมณ์ที่เป็นบวกในการทำงาน รู้สึกว่างานไม่ใช่สิ่งที่เราอึดอัดในการทำ แต่ถ้าพูดกันถึงหลักความเป็นจริง ความสุขในการทำงานของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ผมขอแยกปัจจัยที่ส่งผลก่อให้เกิดความสุขในการทำงานออกเป็น 2 รูปแบบคือ

1. ปัจจัยภายนอก เช่น เงินเดือน,ค่าตอบแทน,สวัสดิการ รวมถึงอุปกรณ์/เครื่องมือที่สนับสนุนช่วยเหลือในการทำงาน ต่างๆ อาทิ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

2. ปัจจัยภายใน เช่น ความท้าทายในงาน, การที่ได้รับการยกย่องชมเฉย, ความรู้สึกที่ได้ทำงานที่มีความสำคัญความยืดหยุ่นในการทำงาน และการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน

แล้วคุณล่ะ มองอะไรคือความสุข???


คนส่วนใหญ่ล้วนมองว่าเงินสิ คือความสุข เงินซื้อได้ทุกอย่างจนบางทีอาจจะนำเงินไปผูกกับความสุขของตัวเอง หรืออาจเรียกว่าขายวิญญาณให้กับเงิน ซึ่งก็ไม่ผิด เนื่องจากถ้าเรามองว่าเงิน สามารถสร้างความสุขให้เราได้โดยตรงเช่นเราได้เงินเดือนมา เรานำไปซื้อของทำให้ความเกิดความสุขและความพึงพอใจ แต่ความสุขที่เกิดขึ้นนี้เป็นความสุขระยะสั้น ไม่คงทน เป็นเพียงความสุขชั่วคราว แต่สมมติเรารู้สึกได้รับความรู้สึกดีๆในการทำงานเช่น ได้รับคำชมจากหัวหน้า ได้รับการปรับตำแหน่ง ยกย่องความสามารถของเรา ได้รับความสำคัญ เพื่อนร่วมงานมีมิตรไมตรีกับเรา (เหนื่อยกายไม่เท่าเหนื่อยใจ จริงไหม?) หรืองานที่เราทำมีความยืดหยุ่นมองที่ผลลัพธ์ของงาน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็น่าจะทำให้เราเกิดความสุขระยะยาวที่คงทนและถาวรมากกว่า

ปัจจัยภายในนั้นสร้างความสุขจากข้างใน มักจะเป็นความสุขที่มีระยะเวลาที่ยาวกว่าความสุขระยะสั้น ตัวผมเองเคยเจอผู้สมัครงานหลายคนนะครับ ที่สุดท้ายแล้วเขาเลือกทำงานในองค์กรที่ยืดหยุ่นเวลาในการทำงาน สถานที่ทำงาน คุยกับหัวหน้างานแล้วคลิกกัน หรือแค่เพราะมีเพื่อนของเราทำงานอยู่องค์กรนั้น ผลักเรื่องเงินเดือนเป็นปัจจัยรอง มุ้งเน้นความสุขในการทำงานมากกว่าครับ ตัวอย่างต่อไป อยากให้ทุกคนมองภาพนี้กันนิดหนึ่งครับ ซึ่งผมมองว่าอาจจะช่วยทำให้เราเห็นภาพมากขึ้น

Pyramid Image

ภาพนี้ทุกคนจะเห็นเป็นภาพพีระมิดที่มี 3 ชั้นโดยเรียงลำดับจากยอดมาฐานเป็น ทำเพื่อสุข,ทำเพื่อทรัพย์,ทำเพื่อเสร็จ ปัจจัยที่อยู่สูงกว่ามักจะส่งผลต่อต่อปัจจัยที่อยู่ถัดลงมา แต่ปัจจัยที่อยู่ต่ำกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องส่งผลต่อปัจจัยที่อยู่สูงกว่า ผมขอขยายความดังนี้ครับ

การทำงานหากเราตั้งเป้าว่าทำเพื่อเสร็จ ทำงานแบบขอไปทีเราอาจจะได้ไม่ได้ผลตอบแทนกลับมา เนื่องจากเราจะขาดในเรื่องของคุณภาพของงานไป หรือหากเราทำงานแค่หวังผลตอบแทน (หรือทำเพื่อทรัพย์) เราอาจจะได้เงินก็จริงแต่เราอาจจะไม่มีความสุขในงานเพราะเราโหมงานหนักจนไม่ไหวทั้งกายและใจ

แต่หากเราทำงานโดยตั้งเป้าเป็นทำเพื่อความสุข ซึ่งเป็นยอดของพีระมิด นอกจากเราจะทำแล้วได้เงิน งานก็เสร็จแบบมีคุณภาพ เนื่องด้วยเราตั้ง Mindset คือความสุขซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในจุดสูงของการทำงาน ในส่วนของผลตอบแทน ความก้าวหน้าทางอาชีพ หรือสิ่งที่เรามั่นหมายไว้ในการทำงานมันจะเป็นผลพลอยได้จากการที่เราทำงานบนพื้นฐานของความสุขครับ

หลักๆแล้วอยากสื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงแก่นแท้ของการทำงานครับว่าสุขภาพกาย สุขภาพใจของเรานั้นมีคุณค่ากับเราเป็นอย่างมากครับ ไม่มีใครจะดูแลได้อย่างสุดความสามารถเท่าตัวเราแล้วครับ

แต่หากถามว่าเราสามารถตั้งเป้าเพื่อทรัพย์เป็นที่ตั้งผิดไหม ก็ไม่ได้ผิดนะครับเพราะ Background หรือการให้ความสำคัญแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เราอาจจะต้องการผลตอบแทนมากกว่าในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต เราเลยโฟกัสกับผลตอบแทนก่อน ส่วนใหญ่จะเห็นมากในกลุ่มคนที่ทำงานเป็นที่แรก ที่ยังมีพลังสุขภาพกาย สุขภาพใจ มีไฟแรงเต็มเปี่ยมที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งไฟแรงนั้นก็ดีครับแต่ก็มีโอกาสหมดไฟในการทำงานได้เช่นกัน แต่หากเราให้ความสุขการทำงานของเราเป็นที่ตั้ง เราจะทำได้แล้วได้เงินและงานเสร็จแบบมีคุณภาพ มันจะทำให้ทุกคนมีความสุขในการทำงาน ความสุขในการใช้ชีวิต

แต่หากวันไหนเราเห็นว่าเป็นวันที่แย่ของเรา (Bad Day) เราอาจจะหาความสุขเล็กๆ (Small Happiness) ในแต่ละวันเรียกว่าเป็นการให้กำลังใจตัวเอง เช่นบางคนอาจจะแค่ได้กินอาหารหรือขนมที่ตัวเองชอบในทุกๆวัน แค่นี้ก็ Made My Day แล้วครับ ในทางกลับกันถ้าเราตั้งเป้าหมายการทำงานเป็นเงิน เราได้เงินครับ ถูกต้อง แต่เราอาจจะเครียดอาจจะไม่มีความสุขในการทำงาน เสียสุขภาพจิตในการทำงาน ทำงานใดงานหนึ่งไม่ได้นาน รู้สึกว่างานไม่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแต่เป็นอุปสรรคสูงชันที่เราต้องข้ามในทุกๆวัน ทำให้เราเหนื่อยในการใช้ชีวิตในการทำงานครับ เคยสังเกตกันไหมครับในคนที่ทำอาชีพที่ต้องทำงานเป็นกะ ควบOTเยอะๆ สิ่งที่เขาได้คือเงินครับ ได้เยอะตามเวลาที่เขาทุ่มเทไป แต่พอผ่านเวลาไปสักพักเขาจะเริ่มรู้สึกว่าเงินไม่ได้เป็นทุกอย่างสำหรับเขาแล้ว สิ่งที่เขาต้องการคือเวลาที่อยู่กับครอบครัว ความสัมพันธ์ของคนรอบตัว งานอดิเรกที่ชื่นชอบ หรือทำตามความฝันของตนเอง

ดังนั้น อยากให้ทุกคนลอง Balance ชีวิตของตัวเองกันให้ดีครับว่า สุขภาพ การเงิน ความสุข ความสัมพันธ์ ความรัก หรือปัจจัยอื่นๆให้อยู่ในระดับใดที่พอดีครับ ถ้าเรามุ่งตั้งใจที่จะหักโหมสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป คิดไว้เสมอได้เลยครับ ว่าจะต้องมีอีกปัจจัยกำลังถูกละเลย ถูกลดความสำคัญลงมาอยู่เรื่อยครับ เพราะคนเรามี 24 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่อยู่ที่ว่าใครจะบริหารความสมดุลของตนเองได้ดีที่สุดครับ

Pyramid Image

และขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพนี้ผมเห็นมาค่อนข้างบ่อยเลยครับที่ในแต่ละ Generation ของช่วงชีวิตที่แตกต่างทำให้สิ่งที่เรามีและสิ่งที่เราไม่มีแตกต่างกัน

1.วัยเด็ก เรามีเวลาและกำลังเหลือเฟือแต่เราไม่มีเงิน หากผู้ปกครองไม่สนับสนุน เด็กหลายๆคนก็จะไปหางานพิเศษทำตั้งแต่ในวัยเด็ก เพื่อชดเชยส่วนตรงนี้

2.วัยทำงาน เราหาเงินเองได้และมีกำลัง แต่เราอาจไม่มีเวลามากพอ เพราะต้องไปทุ่มกับการทำงาน การหาเงิน หลายๆ คนก็พยายามแสวงหาเวลามาชดเชยให้กับครอบครัว เพื่อแยกงานคืองาน ชีวิตคือชีวิต

3.วัยชรา เรามีทั้งเวลาและมีเงินแต่เราขาดพลังงาน มีสุขภาพที่ดีเหมือนแต่ก่อน เพราะเราเริ่มแก่ตัว คนมีอายุหลายๆคนก็หาเวลาไปออกกำลังกาย เล่นกีฬาที่ตัวเองชื่นชอบ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง

จะเห็นได้ว่าในแต่ละวัยของทุกๆคนมันมีสิ่งที่มีและสิ่งที่ขาดไม่เหมือนกันทั้งนี้ทั้งนั้นผมอาจจะรวมถึงความสุขในหลายๆช่วงวัยหรือทั้งชีวิตด้วยเลยนะครับ เพราะงานเป็นส่วนหนึ่งของของชีวิตเลยครับ ฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนลองมองหาความสุขในการทำงานของเราโดยแท้จริงแล้ว นั้นคืออะไรกันแน่ ฉันอยากเก่ง ฉันอยากทำงานท้าทาย ฉันอยากเก่งเชิงลึก ฉันอยากเก่งแนวกว้าง ฉันอยากทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตร ฉันอยากทำงานใกล้บ้าน ฯลฯ ไม่มีผิดไม่มีถูก อะไรที่มีความสุขแล้วไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น โดยอยู่บนขอบเขตของความเหมาะสมก็สามารถเลือกได้ตั้งแต่วันนี้เลยครับ

หาความต้องการของเราให้เจอครับ หาความสุขในทุกสิ่งในชีวิตไม่ใช่เพียงแต่งาน “เพราะชีวิตมันสั้นเกินกว่าที่เราจะไปทำตามความฝันของใคร” ขอให้ทุกคนมีความสุขในการทำงาน การใช้ชีวิต และบริหารความสุขให้สมดุลกันนะครับ

 

ส่วนใครอยากหาความสุขจากการทำงาน แบบ “Work Life Integration” สามารถสมัครมาได้ที่

Tel : 02-026-3964

E-mail : recruit@iamconsulting.co.th

LINE@ : http://bit.ly/3Eji6r1

#IAMConsulting #iamexcite2024ng #iamcareer

#WorkingWithIAM #iamexcite2024

#WorkLifeIntegration #ชีวิตดีที่ไอแอม