ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ กับผลทางกฎหมาย

ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเรื่องการทำงานในหลายๆ ด้าน แต่บางองค์กรยังยอมเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการรับ-ส่งเอกสารแบบกระดาษ เพราะไม่มั่นใจว่าหากเกิดปัญหาต้องฟ้องร้องกันขึ้นมา เอกสารที่ถูกลงนามด้วย ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ จะใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลได้หรือไม่?

หากดูตามข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ แล้ว องค์กรสามารถมั่นใจได้เลยว่า การลงนามด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีผลทางกฎหมายเทียบเท่ากับการจรดปากกาลงนามบนกระดาษ อย่างแน่นอน
เพียงแต่จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่เราเลือกใช้ซึ่ง I AM Consulting จะนำมาอธิบายให้เข้าใจกันในบทความนี้

 

ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร

ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Signature ไม่ได้หมายถึง การเซ็นชื่อ อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง การอัปโหลดรูปภาพลายเซ็น, การพิมพ์ชื่อเป็นตัวอักษร, การใช้ Username-Password บนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น, หรือแม้กระทั่งการคลิกปุ่มยอมรับ ( Submit ) ในแบบฟอร์มต่างๆ เป็นต้น
โดยลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ จะต้องมี 3 องค์ประกอบนี้ 
1.    ระบุเจ้าของลายมือชื่อได้ว่าเป็นของใคร
2.    ระบุเจตนาของเจ้าของลายมือชื่อต่อข้อความที่ลงนาม
3.    ใช้วิธีการที่เชื่อถือได้

 

ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์แต่ละประเภท กับผลทางกฎหมาย

 

•    ประเภทที่ 1 มาตรา 9 : ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป

การลงนามอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรา 9 นี้ เป็น e-Signature แบบทั่วไป ตามที่ได้นิยามไว้ข้างต้น เป็นวิธีที่เข้าใจง่าย สะดวก รวดเร็วที่สุด แต่หากเกิดข้อพิพาทขึ้น ผู้ที่ฟ้องร้องจะมีหน้าที่ในการหาวิธีการพิสูจน์ว่าการลงนามอิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นของจริงหรือของปลอม เช่น นาย A ยืมเงิน นาย B และได้ทำสัญญากันด้วยการเซ็นเอกสาร PDF ไว้ ต่อมานาย A ไม่ยอมจ่ายเงินคืนให้นาย B และอ้างว่าลายเซ็นที่ลงนามไว้นั้นเป็นของปลอม ในกรณีนี้ หากนาย B ในฐานะเจ้าหนี้ ฟ้องร้องนาย A ซึ่งเป็นลูกหนี้ นาย B ที่จะต้องหาวิธีมายืนยันว่าลายเซ็นของนาย A นั้นเป็นของจริง

 

•    ประเภทที่ 2 มาตรา 26 : ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้
•    ประเภทที่ 3 มาตรา 28 : ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งใช้ใบรับรองที่ออกโดยผู้ให้บริการออกใบรับรอง

สำหรับการลงนามอิเล็กทรอนิกส์ตาม มาตรา 26 และ 28 เราจะเรียกว่า Digital Signature หรือ การลงลายมือชื่อดิจิทัล ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของ e-Signature แต่มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัยมากกว่า เพราะจะมีกระบวนการเข้ารหัส ( Encrypt ) ซึ่งช่วยให้สามารถยืนยันตัวเจ้าของลายมือชื่อ และสอบกลับการเปลี่ยนแปลงได้ ส่งผลให้ผู้ลงนามไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบจากข้อความที่ตนเองได้แสดงเจตนาในลงลายมือดิจิทัลไว้

หากเปรียบเทียบกับตัวอย่างเดิม แต่เปลี่ยนการลงนามจาก e-Signature แบบทั่วไป (มาตรา 9) มาเป็นการลงนามแบบดิจิทัล (มาตรา 26 และ 28)  เช่น นาย A ยืมเงิน นาย B และทำสัญญากันด้วยการเซ็นเอกสารผ่านระบบ Digital Signature ไว้ แล้วนาย A ไม่ยอมจ่ายคืน โดยอ้างว่าลายเซ็นเป็นของปลอม ในกรณีนี้จะเป็นหน้าที่ของนาย A ที่จะต้องหาวิธีมายืนยันว่าการลงนามดิจิทัลที่ได้ดำเนินการไว้เป็นของปลอม

 

การเลือกใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงหรือผลกระทบที่อาจทำให้ลายเซ็นไม่เป็นที่ยอมรับ เอกสารขององค์กรที่มีความสำคัญ เช่น เอกสารสัญญาซื้อ-ขายระหว่างบริษัท เอกสารกู้ยืมเงิน หรือเอกสารที่มีเรื่องมูลค่าเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้ Digital Signature จึงเป็นทางเลือกเหมาะสมมากกว่า


ระบบ Digital Signature ของที่ไหนดี ?

หากสนใจอยากทำระบบลงนามดิจิทัล I AM Consuting มี iZign  ซึ่งเป็นระบบ 1 เดียว ที่ปลอดภัยสูงสุด สอดคล้องตามข้อกฎหมายทุกมาตรา ทั้ง มาตรา 9 26 และ 28 ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลากระบวนการลงนามต่างๆ มี log เก็บไว้ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ลดการใช้กระดาษ และหมึกพิมพ์ ลดการใช้พื้นที่จัดเก็บเอกสาร ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ ERP ต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่ออีกด้วย

 

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ iZign เพิ่มเติม คลิกที่นี่

 

ปรึกษาเรื่องระบบ iZign Digital Signature กับ I AM Consulting

เรามีความมั่นใจในระบบที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน ด้วยการใช้เทคโนโลยี PKI ที่มีความโปร่งใส สนับสนุนการลงนามดิจิทัลทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงนามโดยบุคคลเดียว การลงนามร่วม และ การลงนามระหว่างบริษัท มาพร้อมบริการที่ครอบคลุม คอยดูแลในส่วนของการสร้างใบรับรอง และบริหารจัดการให้สอดคล้องตามพรบ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิส์ มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถแนะนำ ให้คำปรึกษา รวมไปจนถึงการฝึกอบรมทีมงานของท่าน

 

พูดคุยปรึกษา - สอบถามข้อมูล ได้ตามช่องทางเหล่านี้
โทรศัพท์ : 02-026-3964 
E-mail : info@iamconsulting.co.th 
LINE@ : http://bit.ly/3Eji6r1